The Import Control System 2 (ICS2) ของสหภาพยุโรป

By Eric Huang Photo:CANVA
ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ของการค้าและความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัย สหภาพยุโรป (EU) ได้เปิดตัวโครงการรักษาความปลอดภัยทางศุลกากรขั้นสูงที่เรียกว่า Import Control System 2 (ICS 2)เป็นโครงการรักษาความปลอดภัยก่อนสินค้ามาถึง เป็นการประเมินความเสี่ยงสินค้าล่วงหน้าของสหภาพยุโรบ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการปกป้องตลาดเดียวของสหภาพยุโรปและความเป็นอยู่ของประชาชน ICS2 เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของแนวปฏิบัติด้านการบริหารความเสี่ยงของศุลกากร โดยมีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การค้าถูกกฎหมาย ขณะเดียวกันก็รับรองความปลอดภัยของห่วงโซ่
สำหรับผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล ข้อบังคับของ ICS2 จะมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ในวันที่ 4 ธันวาคม 2024 ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้ประกอบการขนส่งที่ไม่มีเรือเป็นของตนเอง (Non-Vessel Operating Common Carriers - NVOCCs) และผู้ให้บริการขนส่งสินค้า บทความนี้จะอธิบายประเด็นสำคัญของ ICS2 ระยะเวลาการดำเนินการ และผลกระทบที่มีต่อการค้าทั่วโล
ICS2 คืออะไร?
ICS2 เป็นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของ EU จะเก็บรวบรวมข้อมูลสินค้าขั้นสูง ที่ออกแบบมาเพื่อรวบรวม ประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลด้านความปลอดภัยของสินค้าทุกชนิดที่เข้าสู่สหภาพยุโรป เพื่อให้สามารถประเมินความเสี่ยงได้ก่อนที่สินค้าเหล่านั้นจะมาถึง โดย ICS2 เป็นระบบที่พัฒนาต่อจาก ICS1 และได้รับการสนับสนุนจากโซลูชัน IT สมัยใหม่ การปรับปรุงกฎระเบียบ และการพัฒนาด้านปฏิบัติการ ICS2 เป็นองค์ประกอบหลักของ กรอบการบริหารความเสี่ยงร่วมของสหภาพยุโรป (Common Risk Management Framework - CRMF) ซึ่งให้แนวทางที่เป็นเอกภาพและบูรณาการสำหรับการบริหารความเสี่ยงทางศุลกากรของ 27 ประเทศสมาชิก การวิเคราะห์ความเสี่ยงล่วงหน้าผ่าน ICS2 ทำให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรสามารถระบุและบรรเทาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นของห่วงโซ่อุปทาน
วัตถุประสงค์หลักของ ICS2
- เพิ่มความปลอดภัย – ป้องกันภัยคุกคามที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดและประชาชนของสหภาพยุโรป
- บริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ – สนับสนุนเจ้าหน้าที่ศุลกากรในการดำเนินมาตรการตรวจสอบสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง
- อำนวยความสะดวกให้แก่การค้าถูกกฎหมาย – ช่วยให้การเคลื่อนย้ายสินค้าผ่านระบบศุลกากรเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- เพิ่มความยืดหยุ่นในภาวะวิกฤติ – กำหนดมาตรการศุลกากรที่เหมาะสมเมื่อเกิดวิกฤติ
- พัฒนาการแลกเปลี่ยนข้อมูล – ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพระหว่างผู้ประกอบการทางเศรษฐกิจ (Economic Operators - EOs) และหน่วยงานศุลกากร
องค์ประกอบหลัก: ใบสำแดงข้อมูลสินค้าเข้า (ENS)
องค์ประกอบสำคัญของ ICS2 คือ ใบสำแดงข้อมูลสินค้าเข้า (Entry Summary Declaration - ENS) ซึ่งเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าที่จะนำเข้า ส่งผ่าน หรือเข้าสู่สหภาพยุโรป โดย ENS ช่วยให้หน่วยงานศุลกากรสามารถประเมินความเสี่ยงของสินค้าได้ก่อนที่จะมาถึง
ระยะเวลาการดำเนินการของ ICS2
ICS2 ถูกนำมาใช้ใน 3 ระยะ ดังนี้:
- ระยะที่ 1 (15 มีนาคม 2021): ผู้ให้บริการไปรษณีย์และขนส่งด่วนทางอากาศเริ่มยื่น ENS
- ระยะที่ 2 (1 มีนาคม 2023): สายการบินและผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศทั้งหมดต้องปฏิบัติตาม
- ระยะที่ 3 (3 มิถุนายน 2024): ครอบคลุมทุกโหมดการขนส่ง รวมถึงทางทะเลและทางรถไฟ
การปรับปรุงที่สำคัญของ ICS2 เมื่อเทียบกับ ICS1
- การยื่นข้อมูลที่มีรายละเอียดมากขึ้น
- ผู้ประกอบการต้องระบุคำอธิบายเชิงพาณิชย์ของสินค้าแต่ละรายการ
- ต้องมี รหัส HS แบบ 6 หลัก สำหรับการจัดประเภทสินค้าที่ถูกต้อง
- ต้องให้ข้อมูลของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ส่งสินค้าและผู้รับสินค้า
- ข้อกำหนดการรายงานที่เข้มงวดขึ้น
- ENS ต้องยื่นในระดับใบตราส่งสินค้าระดับรอง (House Bill of Lading - HBL) ไม่ใช่แค่ระดับผู้ให้บริการขนส่ง
- ข้อมูลต้องถูกส่งแบบอิเล็กทรอนิกส์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการโหลดสินค้า
- การปรับให้สอดคล้องกับมาตรฐานโลก
- ICS2 นำแนวทางและประสบการณ์จากประเทศอื่น เช่น สหรัฐฯ แคนาดา และญี่ปุ่น มาใช้เพื่อสร้างระบบบริหารความปลอดภัยทางศุลกากรที่เป็นมาตรฐานสากล
ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติตาม ICS2
เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น ต้องยื่นข้อมูลต่อไปนี้อย่างถูกต้อง:
- รายละเอียดสินค้า
- เส้นทางการขนส่งและข้อมูลการผ่านแดน
- รายละเอียดผู้ให้บริการขนส่งและเรือที่ใช้
- หมายเลขตู้คอนเทนเนอร์และหมายเลขซีล
- ข้อมูลเกี่ยวกับคู่ค้าในการทำธุรกรรม
- รายละเอียดของผู้ขายและผู้ซื้อ
- ผู้ส่งสินค้า (Shipper) และผู้รับสินค้า (Consignee)
- หมายเลข EORI ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
- การจัดประเภทสินค้า
-
- คำอธิบายสินค้าอย่างละเอียด
- รหัส HS เพื่อให้สามารถจำแนกสินค้าได้อย่างถูกต้อง
ผลกระทบจากการไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ ICS2
หากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของ ICS2 อาจนำไปสู่ผลกระทบร้ายแรง เช่น:
- ความล่าช้าในการขนส่งสินค้า – สินค้าอาจถูกกักกันที่ศุลกากรของสหภาพยุโรป
- การถูกปฏิเสธหรือถูกปรับ – การยื่นข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องอาจถูกปฏิเสธหรือถูกปรับ
- ไม่สามารถโหลดสินค้าได้ – การไม่มีหมายเลขอ้างอิงการเคลื่อนย้ายสินค้า (MRN) จะทำให้ไม่สามารถขนส่งสินค้าได้
- ค่าปรับทางการเงิน – การรายงานล่าช้าหรือการส่งข้อมูลที่ผิดพลาดอาจนำไปสู่ค่าปรับที่สูง
Benefits of ICS2
แม้จะมีความท้าทาย แต่ ICS2 ก็มีข้อได้เปรียบที่สำคัญ:
การค้าที่คล่องตัว: ผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามกฎหมายได้รับประโยชน์จากกระบวนการพิธีการศุลกากรที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น: การจัดการความเสี่ยงที่ได้รับการปรับปรุงสร้างสภาพแวดล้อมการค้าที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
การกำหนดมาตรฐานระดับโลก: การจัดแนวร่วมกับตลาดหลักอื่นๆ ทำให้การค้าระหว่างประเทศง่ายขึ้น
ข้อสรุป
ICS2 ถือเป็นนวัตกรรมสำคัญในระบบบริหารความเสี่ยงทางศุลกากร ที่มุ่งเน้นความสมดุลระหว่างความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกทางการค้า แม้ว่าจะมีความท้าทายในการดำเนินการ แต่การเตรียมตัวล่วงหน้าและการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวและดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น ในระยะยาว ICS2 จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานและส่งเสริมความร่วมมือในการค้าระหว่างประเทศ
ขอขอบคุณหากคุณสามารถแบ่งปันบล็อก TGL ในหมู่เพื่อนของคุณที่สนใจข้อมูลตลาดโดยตรงของโซ่อุปทานและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่อัปเดต