By Nick Lung    Photo：CANVA

เมื่อทำการส่งออกสินค้าจากเอเชียไปยังตลาดยุโรปและอเมริกา อุปสรรคแรกที่มักพบเจอกันบ่อยๆคือ ความไม่แน่นอนของค่าระวางและพื้นที่ระวางเรือ เนื่องจากอุปสงค์และอุปทานของการขนส่งทางเรือทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ สายการเดินเรือจึงจะปรับพื้นที่ระวางและราคาค่าระวางเป็นระยะๆ รายงานล่าสุดระบุว่าหลายท่าเรือในเอเชียกำลังประสบปัญหาขาดแคลนตู้สินค้าและอุปกรณ์ ทำให้บางครั้งไม่สามารถจองพื้นที่ได้ หรือแม้จะมีพื้นที่ แต่ราคาก็สูงขึ้นมาก

ความผันผวนนี้ทำให้การวางแผนส่งออกและคำนวณต้นทุนเป็นเรื่องยาก และอาจส่งผลให้ต้องเลื่อนการส่งสินค้าอย่างช่วยไม่ได้

นอกจากนี้ กระบวนการส่งออกยังอาจได้รับผลกระทบจากนโยบายและการเปลี่ยนแปลงด้านภาษี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศผู้นำเข้าบางแห่งมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมหรือเพิ่มค่าธรรมเนียมท่าเรือ ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าผิดไปทั้งหมด

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายแบบฉับพลัน ผู้ส่งออกหรือผู้นำเข้าอาจต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น หรือเผชิญความเสี่ยง เช่น การยกเลิกคำสั่งซื้อและความต้องการที่ชะลอตัวลง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่โดยเฉพาะในธุรกิจข้ามพรมแดน

ยิ่งไปกว่านั้น แม้สินค้าจะขึ้นเรือสำเร็จแล้ว ก็ยังอาจพบปัญหา เช่น ท่าเรือติดขัด ปริมาณงานค้าง และความล่าช้าของโลจิสติกส์ทั้งระหว่างเดินทางและเมื่อถึงปลายทาง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่าเรือใหญ่ในยุโรปและอเมริกาเหนือมีปริมาณตู้สินค้าที่พุ่งสูงขึ้น ในขณะที่ระบบขนส่งภายในประเทศ เช่น การขนส่งทางน้ำ ระดับน้ำในแม่น้ำ หรือระบบราง กลับเกิดปัญหาคอขวด ทำให้เกิดการรอคิว การค้างตู้ และความล่าช้าในการขนถ่ายสินค้า

ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงยืดระยะเวลาขนส่ง แต่ยังทำให้กำหนดการขายสินค้าที่วางไว้เสียหาย ลูกค้าไม่พอใจ และอาจกระทบต่อชื่อเสียงรวมถึงความร่วมมือในอนาคตด้วย

นอกจากนี้ ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกและความต้องการซื้อที่ผันผวน แม้การส่งออกจะสำเร็จ ก็ไม่ได้หมายความว่าตลาดจะตอบรับตามที่คาดหวัง ปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพแวดล้อมทางการค้าที่ไม่แน่นอน อุปสงค์และอุปทานที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด และพฤติกรรมผู้บริโภคที่แปรปรวน อาจทำให้สินค้าที่ส่งไปยุโรปและอเมริกาเผชิญกับปัญหา เช่น ความต้องการลดลง เกิดการแข่งขันกันในราคาสินค้า สต็อกล้น หรือยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งเมื่อได้ประกอบกับความเสี่ยงระหว่างการขนส่งที่กล่าวไปเบื้องต้น ก็ยิ่งทำให้ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าต้องเผชิญแรงกดดันมากขึ้นไปอีก

แม้การส่งออกสินค้าจากเอเชียไปยุโรปและอเมริกาจะเต็มไปด้วยความเสี่ยง แต่ก็สามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสำเร็จได้ด้วยแนวทางต่อไปนี้

อย่างแรก ในการที่จะเพิ่มโอกาสสำเร็จในการขนส่งคุณต้องเลือกพันธมิตรและเส้นทางขนส่งที่เชื่อถือได้และมีความหลากหลาย อย่าพึ่งพาเส้นทางหรือสายเรือเพียงรายเดียว หากคุณสามารถทำงานร่วมกับหลายๆบริษัทไว้ตั้งแต่ตอนนี้และใช้เป็นประวัติความน่าเชื่อถือของแต่ละรายไว้ เมื่อเส้นทางใดมีปัญหา เช่น ท่าเรือติดขัด สภาพอากาศย่ำแย่ หรือข้อจำกัดด้านนโยบาย หรือปัญหาอื่นๆที่ตอนนี้คุณคิดไม่ถึง คุณก็จะสามารถเปลี่ยนไปใช้แผนสำรองได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาเส้นทางเดียวได้อย่างมาก


อย่างที่สอง ตรวจสอบเอกสาร บรรจุภัณฑ์ ฉลากสินค้า และวิธีการบรรจุอย่างรอบคอบ ความล่าช้าส่วนมากในโลจิสติกส์ระหว่างประเทศมักเกิดจากปัจจัยที่ “ควบคุมได้” เช่น เอกสารไม่ครบ การระบุ พิกัดศุลกากรผิด การติดฉลากไม่ถูกต้อง หรือการบรรจุสินค้าอย่างไม่เหมาะสม การตรวจสอบตั้งแต่ต้นทางว่า Invoice, Packing List, พิกัดศุลกากร และวิธีบรรจุสินค้า(เช่น กันกระแทก กันแตก และ กันความชื้น) ตรงตามมาตรฐานประเทศปลายทาง จะช่วยลดความเสี่ยงของการถูกดึงตรวจ ถูกกัก หรือถูกปรับ

อย่างที่สาม คุณควรที่จะทำประกันภัยสินค้า และใช้ระบบติดตามสถานะการขนส่งตลอดเส้นทาง เนื่องจากสินค้าอาจได้รับความเสียหายจากความชื้น แรงกดทับ การกระแทก หรือแม้แต่การสูญหายระหว่างการเดินเรือ การถ่ายลำ การขนส่งต่อ ประกอบกับเส้นทางและสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้ การทำประกันภัยทางทะเลจะช่วยลดความเสี่ยง ขณะเดียวกัน การใช้ระบบติดตามแบบดิจิทัลจะช่วยให้สามารถตรวจสอบสถานะสินค้าได้ตลอดเวลา (ผ่านการติดตามตรวจสอบแบบเรียลไทม์ และระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ) และแก้ไขปัญหาได้ทันทีเมื่อเกิดความผิดปกติ ทำให้สามารถตรวจสอบตำแหน่งและสถานะของสินค้าได้แบบเรียลไทม์ และจัดการหรือแจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วหากตรวจพบความผิดปกติใดๆ

และอย่างสุดท้าย ที่สำคัญที่สุด คุณต้องเพิ่มความยืดหยุ่นและเว้นเวลาเผื่อไว้ในแผนการขนส่งบ้าง เนื่องจากความไม่แน่นอนต่างๆ เช่น ท่าเรือติดขัด สภาพอากาศย่ำแย่ การผ่านพิธีการศุลกากรมีปัญหา การถ่ายลำล่าช้า ต้องตรวจสอบเอกสาร การขาดแคลนตู้สินค้า ฯลฯ การจัดสรรเวลาเผื่อไว้ในแผนตั้งแต่แรกจะช่วยลดปัญหาการส่งมอบล่าช้า หากสามารถแจ้งผู้ซื้อหรือคู่ค้าล่วงหน้าเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของความล่าช้า แทนที่จะกำหนดเวลาขนส่งที่กระชั้นชิดไปเฉยๆ คู่ค้ามักจะยอมรับได้และช่วยลดปัญหาด้านความน่าเชื่อถือและความเสียหายอื่นๆได้

ขอขอบคุณหากคุณสามารถแบ่งปันบล็อก TGL ในหมู่เพื่อนของคุณที่สนใจข้อมูลตลาดโดยตรงของโซ่อุปทานและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่อัปเดต