คู่มือปฏิบัติงานสำหรับการนำเข้า และ ส่งออกพื้นไม้

By Martina Kao Photo:CANVA
ทำไมควรเริ่มจากเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง (Compliance)?
พื้นไม้อาจดูเหมือนวัสดุก่อสร้างทั่วไป แต่ในความเป็นจริงกลับเกี่ยวข้องกับกฎระเบียบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบย้อนกลับชนิดไม้และแหล่งที่มา มาตรฐานการปล่อยสารฟอร์มาลดีไฮด์ กฎหมายด้านสุขอนามัยพืช/การกักกัน และการยื่นเอกสารความปลอดภัยล่วงหน้า การเตรียมเอกสารให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการถูกกักสินค้าที่ปลายทาง การต้องเปิดตู้แก้ไขเอกสาร หรือแม้แต่ปัญหาการเคลมในภายหลังได้
1) การจำแนกประเภท HS/HTS และความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับศุลกากร
การจำแนกประเภทพื้นไม้ที่พบบ่อย
- พื้นไม้เอ็นจิเนียร์/พื้นไม้เอ็นจิเนียร์โครงสร้างแบบชั้น : พิกัด 4418.75
ในบางประเทศ (เช่น สหรัฐอเมริกา) สินค้าที่มี หน้าไม้ ≥ 4 มม. จะถูกจัดอยู่ใน 4418 - พื้นไม้ไผ่: โดยทั่วไปคือพิกัด 4418.73 ส่วนแผงโมเสกปาร์เกต์ (Parquet mosaic panels): จะอยู่ที่พิกัด 4418.74 โดยแนะนำให้ตรวจสอบ ตารางพิกัดภาษีศุลกากรของแต่ละประเทศ และเทียบพิกัดกับ WCO อยู่เสมอ
- แผงไม้อัดยาง/แผ่นไม้อัดวีเนียร์/แผ่นไม้ลามิเนต (Plywood/veneered/laminated panels): โดยทั่วไปจัดอยู่ในพิกัด 4412 หากพื้นไม้คอมโพสิตมี แกนไม้อัดหรือวัสดุคล้ายกัน และมี ชั้นสึกหรอ (wear layer) บางๆ มักจะจัดอยู่ในพิกัด 4412 มากกว่าพิกัด 4418
รายละเอียดจำเพาะที่มีผลต่อการจำแนกพิกัดศุลกากร อัตราภาษี และการปฏิบัติตามข้อกำหนดของประเทศปลายทาง
- ชนิดและสกุลของไม้ ที่ใช้เป็นชั้นผิวหน้า ความหนาของชั้นผิวหน้า จำนวนชั้นและโครงสร้างของพื้นไม้ การเคลือบหรือการตกแต่งผิวหน้า (surface finish) และ การใช้วัสดุผสมที่อยู่ภายใต้การควบคุม เช่น HWPW, MDF หรือแผ่นปาร์ติเคิลบอร์ด
2) ภาพรวมข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามของแต่ละประเทศปลายทาง (ที่ผู้ซื้อต้องการ)
สหภาพยุโรป (EU)
- EUDR(กฎระเบียบว่าด้วยการป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป) ครอบคลุม ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ วิสาหกิจขนาดใหญ่และขนาดกลาง: มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2568 วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs): คาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในช่วง กลางปี 2569 กฎระเบียบ EUDR เข้ามาแทนที่ EUTR เดิม โดย ผู้ส่งออกควรเตรียมความพร้อมล่วงหน้า สำหรับกระบวนการ ตรวจสอบสถานะ (due diligence) ที่เข้มงวดและครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งรวมถึง การตรวจสอบ ความถูกต้องตามกฎหมายของแหล่งที่มา การยืนยันว่าเป็นสินค้าที่ “ปลอดการตัดไม้ทำลายป่า” (deforestation-free) และ การตรวจสอบย้อนกลับตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ (geolocation traceability) ของพื้นที่ผลิต
- ICS2 (ระบบควบคุมการนำเข้า 2 ของสหภาพยุโรป) ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เป็นต้นไป ระบบ ICS2 จะเข้ามาแทนที่ ICS1 อย่างสมบูรณ์ ภายใต้ Release 3 การยื่นข้อมูลหลายรายการ (multiple filing) จะถูกขยายให้ครอบคลุมทุกโหมดการขนส่ง ภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ คำอธิบายสินค้า จะต้องมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น และระบุพิกัด HS อย่างถูกต้อง เพื่อให้ผ่านการตรวจสอบของระบบได้อย่างราบรื่น
- การป้องกันการทุ่มตลาด (พื้นไม้หลายชั้นจากจีน, CN 4418 75 00; ไม่รวมไม้ไผ่และโมเสก) ภายใต้ ข้อบังคับการบังคับใช้ของคณะกรรมาธิการยุโรป (EU) หมายเลข 2025/1342 (ประกาศใช้เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 และเผยแพร่เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2025) ได้กำหนดให้มีการเรียกเก็บ อัตราภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดขั้นสุดท้าย อยู่ระหว่าง 21.3%–36.1% พร้อมเรียกเก็บย้อนหลัง (retroactive collection) สำหรับสินค้านำเข้าที่ได้จดทะเบียนไว้ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2024 โดยอัตราภาษีชั่วคราวที่เคยประกาศก่อนหน้าได้รับการยืนยันให้เรียกเก็บจริง ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าควร จึงควรที่จะประเมินเงื่อนไขการเสนอราคา (quote terms) และ เงื่อนไขการส่งมอบตาม Incoterms ล่วงหน้า เพื่อบริหารความเสี่ยงด้านต้นทุนและภาระภาษี
สหรัฐอเมริกา (US)
- การยื่นประกาศตามกฎหมาย Lacey Act (Lacey Act Declaration) หากผลิตภัณฑ์ของคุณมี ส่วนประกอบจากพืชหรือไม้ และ รหัสพิกัดศุลกากร (HTS) ของสินค้าถูกระบุไว้ใน ตารางการบังคับใช้ของ APHIS คุณต้อง ยื่นแบบประกาศเกี่ยวกับพืช (Plant Declaration) โดยระบุ สกุลและชนิดของพืช และ ประเทศที่ทำการเก็บเกี่ยว ซึ่งในระยะที่ 7 (Phase VII) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 โดยได้ ขยายขอบเขตการครอบคลุม ให้รวมถึงการจำแนกประเภทของพืชและไม้เพิ่มเติม ซึ่งผู้ประกอบการควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับ APHIS เพื่อยืนยันว่า พิกัดศุลกากรของสินค้าตนได้อยู่ในขอบเขตข้อกำหนดหรือไม่
- TSCA Title VI (40 CFR Part 770): ผลิตภัณฑ์ที่มีผลิตภัณฑ์ไม้คอมโพสิตที่ได้รับการควบคุม ได้แก่ ไม้อัดไม้เนื้อแข็ง (HWPW), MDF (รวมถึง MDF บาง), แผ่นปาร์ติเคิลบอร์ด ต้องเป็นไปตามข้อจำกัดการปล่อยมลพิษ (HWPW ≤ 0.05 ppm; PB ≤ 0.09 ppm; MDF ≤ 0.11 ppm; thin MDF≤ 0.13 ppm) และปฏิบัติตามกฎการจัดซื้อ/ฉลาก/การบันทึกข้อมูล การรับรองโดยบุคคลที่สาม (TPC) มีผลบังคับใช้กับผู้ผลิตแผ่นไม้ ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2567 ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ลามิเนตบางรายที่ใช้กาวที่ไม่ใช่ NAF/PF จะได้รับการปฏิบัติในฐานะผู้ผลิต HWPW และกำหนดให้ใช้ TPC พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ใช้วัสดุเหล่านี้ต้องมั่นใจว่าแผ่นไม้เป็นไปตามมาตรฐาน TSCA VI และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
- ภาษีศุลกากรมาตรา 301 (สำหรับสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน) สินค้าส่วนใหญ่ ในรายการ 1–3 และ 4A ยังคงต้องเสีย ภาษีเพิ่มเติม (additional duties) โดยหลังจากการทบทวนตามรอบสี่ปีในปี 2567 สินค้าบางรายการที่ถือว่าเป็น เชิงกลยุทธ์ (strategic items) อาจถูกปรับ อัตราภาษีขึ้นเป็นระยะ ๆ ผู้ประกอบการควร ตรวจสอบข้อมูล “China Tariffs” ของ USITC สำหรับพิกัดศุลกากร ของสินค้าเทียบกับบรรทัด 9903.88.xx ติดตามประกาศ การยกเว้นหรือขยายเวลาของ USTR (บางข้อยกเว้นในปัจจุบันได้ขยายระยะเวลาไปจนถึงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568)
ตลาดอื่น ๆ
- สหราชอาณาจักร (United Kingdom): มีการบังคับกฎหมายเกี่ยวกับไม้ตาม UK Timber Regulations (UKTR) และ UK FLEGT ซึ่งหากไม้มี ใบอนุญาต FLEGT ก็ถือว่า ได้เป็นไปตามข้อกำหนดแล้ว
- ออสเตรเลีย (Australia): ภายใต้ Illegal Logging Prohibition Act 2012 และ Illegal Logging Prohibition Rules 2024 กำหนดให้ผู้นำเข้าต้องทำการตรวจสอบสถานะความถูกต้องของไม้ก่อนนำเข้า (due diligence)
- ชนิดของไม้ตามอนุสัญญา CITES (เช่น Dalbergia/rosewood): ควรตรวจสอบ หมายเหตุประกอบ ณ ปัจจุบัน (เช่น ข้อ 15) เพื่อพิจารณาข้อกำหนดหรือข้อยกเว้นสำหรับใบอนุญาตนำเข้า
3) เอกสารและข้อมูล (ความร่วมมือระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ)
- ใบกํากับสินค้าเชิงพาณิชย์ (Commercial Invoice): ชื่อสินค้า, พิกัดศุลกากร, ชนิดพันธุ์พืช, จำนวนชั้น/ความหนาของชั้นผิวหน้า, แหล่งกำเนิด, หน่วยและมูลค่ารวม, Incoterms
- รายการบรรจุภัณฑ์: จำนวนบรรจุภัณฑ์, น้ำหนักสุทธิ/น้ำหนักรวม, CBM; จำนวนแพ็คต่อพาเลท และบาร์โค้ด (แนะนำ)
- หลักฐานที่ต้องมี:
- ข้อมูล Lacey Act (สหรัฐอเมริกา) และคำชี้แจงชนิดพันธุ์/แหล่งกำเนิดจากซัพพลายเออร์
- หลักฐานว่าได้มีการปฏิบัติตาม TSCA Title VI (หากใช้วัสดุผสม)
- ไฟล์ตรวจสอบสถานะ EUDR (ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์, หลักฐานความถูกต้องตามกฎหมาย)
- ใบอนุญาต CITES (หากมีชนิดพันธุ์ที่ระบุไว้)
- เอกสารการขนส่ง: ข้อมูล HBL/MBL, ENS (เอกสารสรุปการนำเข้า) สำหรับ ICS2, และเอกสารประกอบแหล่งกำเนิด/ศุลกากร
4) การบรรจุ ความชื้น และการจัดเรียงสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์ (ลดความเสี่ยงการเคลมสินค้า)
- การควบคุมความชื้น: ตามแนวทางปฏิบัติของ NWFA/NOFMA ปริมาณความชื้น (MC) ในโรงงานทั่วไปอยู่ที่ 6–9% โดยค่าความคลาดเคลื่อนในการผลิตมักอยู่ที่ 6–10% โดยควรตรวจสอบและบันทึกค่า MC ก่อนจัดส่งเพื่อป้องกันการโก่งงอหรือโค้งงอของพื้นไม้
- ความชื้นในตู้คอนเทนเนอร์: ในระหว่างการขนส่งทางทะเล อาจเกิดปรากฏการณ์ “ฝนในตู้คอนเทนเนอร์” (การควบแน่น) ควรใช้สารดูดความชื้น และ วัสดุรอง/กระดาษรอง ที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการใช้พาเลทไม้สด (green pallets) ซึ่งยังไม่แห้งหรืออบไอน้ำ เพราะจะเพิ่มความชื้นภายในตู้
- บรรจุภัณฑ์ไม้: ปลายทางส่วนใหญ่กำหนดให้ใช้มาตรฐาน ISPM-15 (การอบความร้อนหรือรมควัน) และมี เครื่องหมายอย่างเป็นทางการ สำหรับพาเลทไม้และวัสดุกันกระแทก
- การจัดวางบนพาเลท: ควรกำหนด ขนาดกล่องให้เป็นมาตรฐาน และยึดด้วย แผ่นไม้มุม + สายรัด + พลาสติกยืด เพื่อหลีกเลี่ยงการยื่นเกินออกมาหรือกองสูงเกินไป และลดความเสียหายจากการสั่นสะเทือนหรือเอียงของสินค้า
5) เคล็ดลับการขนส่งและประกันภัย
- โหมด/ล็อต: การขนส่งส่วนใหญ่ใช้ FCL หากเป็น LCL ต้องพิจารณาความเข้ากันได้ของการขนส่งร่วม เนื่องจากไม้เป็นวัสดุ ดูดความชื้น และอาจไม่เข้ากับสารเคมีบางชนิดหรือสินค้าที่มีความชื้นสูง
- ประกันภัย: เลือก ICC (A) และเพิ่ม ความคุ้มครองความเสียหายจากความชื้น/เชื้อรา (ข้อความอาจแตกต่างกันไปตามบริษัทประกัน) โดยทั่วไป จำนวนเงินเอาประกัน จะอิงจาก ใบแจ้งหนี้ CIF หรือข้อตกลงที่ทำร่วมกัน การเคลมมักอิงหลักฐาน การบรรจุภัณฑ์ และ บันทึก MC เป็นหลัก
- การควบคุมระยะเวลา: สำหรับเส้นทางสู่ EU ควรกำหนดเวลา การยื่นเอกสารระดับ ICS2 House และความเป็นเจ้าของข้อมูล (ผู้ให้บริการขนส่ง ตัวแทนส่งต่อ ผู้ส่งสินค้า) ให้ชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยง “Do Not Load” หรือความล่าช้าในการมาถึงเนื่องจากคำอธิบายสินค้าไม่ชัดเจน
6) แล้ว TGL จะช่วยเหลือคุณได้อย่างไร?
TGL มุ่งเน้นไปที่ ธุรกิจระหว่างประเทศ (ทางทะเล/ทางอากาศ), เป็นคำตอบให้กับผู้ที่ต้องการใช้ เขตการค้าเสรี คลังสินค้าทัณฑ์บน, การขนส่งทางรถบรรทุกและการจัดส่งระยะสุดท้ายผ่านพันธมิตร และรวมถึง คลังสินค้าในต่างประเทศ
เราสามารถออกแบบ เส้นทางการขนส่งและขั้นตอนเอกสาร, จัดลำดับขั้นตอน และประสานงานกับ ที่ปรึกษาด้านการระเบียบศุลกากร และพันธมิตรในพื้นที่
ติดต่อ
อีเมล: inquiry@tgl-group.net
ขอขอบคุณหากคุณสามารถแบ่งปันบล็อก TGL ในหมู่เพื่อนของคุณที่สนใจข้อมูลตลาดโดยตรงของโซ่อุปทานและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่อัปเดต