By Cadys Wang    Photo：CANVA

นับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2025 เป็นต้นมา สหภาพยุโรปได้เปิดใช้ระบบ ICS2 (Import Control System 2) อย่างเต็มตัวแล้ว หลังจากการเปิดเฟส 3 ซึ่งครอบคลุมด้านการขนส่งทางถนน และทางราง เข้ารวมกับการขนส่งทางอากาศ ทางทะเล และทางไปรษณีย์ที่ได้บังคับไปในเฟสก่อนหน้า

ซึ่งหมายความว่าสินค้าทุกชิ้นที่จะเข้าหรือผ่านสหภาพยุโรปจะต้องยื่นข้อมูลล่วงหน้าผ่าน ใบขนสินค้าแบบย่อ (ENS) ก่อนที่จะมาถึง ไม่ว่าจะใช้รูปแบบการขนส่งใดก็ตาม ICS2 ช่วยให้หน่วยงานศุลกากรสามารถประเมินความเสี่ยงล่วงหน้า ตรวจจับสินค้าที่มีความเสี่ยงสูงได้ตั้งแต่ต้น เสริมความมั่นคงของพรมแดน และส่งเสริมการค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย

แล้วทำไม ICS2 จึงสำคัญต่อผู้ส่งสินค้าและผู้รับสินค้า?

 ICS2 ไม่ใช่แค่การอัปเกรดระบบเฉยๆ แต่เป็นการปรับเปลี่ยนพื้นฐานการจัดการความปลอดภัยของสินค้าในสหภาพยุโรป ซึ่งสำหรับผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ ระบบนี้จะส่งผลต่อการดำเนินงานของพวกเขาโดยตรง เช่น:

• บังคับให้ทำการยื่นข้อมูลล่วงหน้า: ทุกการขนส่งต้องยื่น ENS ก่อนสินค้าจะเข้าสู่สหภาพยุโรป
• การวิเคราะห์ความเสี่ยงขั้นสูง: ศุลกากรจะตรวจสอบข้อมูลของสินค้าก่อนที่จะมาถึง ช่วยลดปัญหาคอขวดที่ชายแดนที่อาจเกิดขึ้นได้
• มีผลกระทบต่อทั้งห่วงโซ่อุปทาน: ระบบนี้ไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อผู้ขนส่งและตัวแทนส่งของเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อผู้ส่งออกและผู้นำเข้าด้วย เพราะการจะได้มาซึ่งข้อมูลที่ถูกต้องและมาตรงเวลาได้นั้น ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากต้นทาง

ข้อกำหนดสำคัญที่ต้องปฏิบัติตาม

เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของระบบ ICS2 บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องปรับกระบวนการและระบบงานภายใน ดังนี้:

• ต้องการเชื่อมต่อระบบไอที: แพลตฟอร์มภายในและระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (EDI) ต้องสามารถเชื่อมต่อกับระบบ ICS2 ได้ เพื่อจัดการกับการยื่นข้อมูล ใบขนสินค้าแบบย่อ (Entry Summary Declaration: ENS)
• เอกสารต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน: ข้อมูลการขนส่งทั้งหมดต้องตรงตามข้อกำหนดของ ใบขนสินค้าแบบย่อ (Entry Summary Declaration: ENS) เช่น รหัส HS รายละเอียดผู้ส่ง/ผู้รับ และคำอธิบายสินค้าที่ถูกต้อง
• ต้องมีการปรับกระบวนการทำงาน: โดยหากไม่ปฏิบัติตาม อาจส่งผลให้สินค้าล่าช้า ถูกปรับ หรือแม้กระทั่งถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าสหภาพยุโรป

การผ่อนปรนในช่วงเปลี่ยนผ่าน

แม้ว่าระบบ ICS2 จะเริ่มใช้งานจริงทั่วทั้งสหภาพยุโรปแล้ว แต่บางประเทศสมาชิกก็ได้รับ การผ่อนปรนชั่วคราว เพื่อให้ภาคธุรกิจมีเวลาปรับปรุงโครงสร้างระบบไอทีให้พร้อมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การผ่อนปรนนี้ ไม่ได้หมายความว่าได้รับยกเว้นทั้งหมด บริษัทต่าง ๆ จึงควรตรวจสอบข้อกำหนด เป็นรายประเทศ โดยเฉพาะหากมีการจัดส่งสินค้าไปยังหลายประเทศในยุโรปในการขนส่งครั้งเดียว

ผลกระทบเชิงกลยุทธ์ต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

ผลกระทบเชิงกลยุทธ์ต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

• การปกป้องชายแดนที่เข้มงวดขึ้น: การที่ศุลกากรสามารถตรวจสอบข้อมูลการเคลื่อนย้ายสินค้าล่วงหน้าได้อย่างละเอียด ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการลักลอบนำเข้าสินค้า สินค้าปลอมแปลง และภัยคุกคามต่อความมั่นคงได้
• กรอบการทำงานแบบรวมศูนย์ของ EU: การใช้ระบบกลางเพียงระบบเดียวแทนที่ระบบศุลกากรของแต่ละประเทศสมาชิก ช่วยลดความสับสนและความซ้ำซ้อนของระบบให้กับทำให้ผู้ส่งสินค้าทั่วโลก
• แรงกดดันต่อประเทศนอกสหภาพยุโรป: ผู้ส่งออกจากเอเชีย สหรัฐฯ และภูมิภาคอื่น ๆ จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ EU ซึ่งตอกย้ำบทบาทของสหภาพยุโรปในฐานะ “ผู้กำหนดกฎเกณฑ์” ของการค้าระหว่างประเทศ

สิ่งที่ผู้ส่งสินค้าและผู้รับสินค้าควรดำเนินการ

เพื่อให้การนำเข้าสินค้าเข้าสู่สหภาพยุโรปเป็นไปอย่างราบรื่น ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในห่วงโซ่โลจิสติกส์ควรเริ่มดำเนินการสิ่งเหล่านี้ตั้งแต่ตอนนี้:

1. ตรวจสอบคุณภาพของข้อมูลในเอกสาร: ทบทวนขั้นตอนการจัดทำเอกสารการขนส่งให้มั่นใจว่า รหัส HS รายละเอียดของผู้ส่ง/ผู้รับ และคำอธิบายสินค้า ถูกต้องและสอดคล้องกับมาตรฐาน ICS2
2. อัปเกรดระบบไอที: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวแทนส่งของ ตัวแทนออกของ และระบบภายในของบริษัท สามารถส่งข้อมูล ใบขนสินค้าแบบย่อ (Entry Summary Declaration: ENS)  ไปยังระบบ ICS2 ได้โดยตรง
3. ประสานงานกับพันธมิตรในห่วงโซ่อุปทาน: จัดแนวทางความรับผิดชอบให้สอดคล้องกันทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน— กำหนดให้ชัดเจนว่า ใครต้องเป็นผู้ยื่น ใบขนสินค้าแบบย่อ (Entry Summary Declaration: ENS)  ใครเป็นผู้ให้ข้อมูล และจะจัดการอย่างไรหากข้อมูลไม่ตรงกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้า
4. ติดตามข้อกำหนดเฉพาะของแต่ละประเทศ: อัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับ การผ่อนปรนและมาตรการเฉพาะของประเทศสมาชิก EU อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง

ส่งท้าย

การเปิดใช้งานระบบ ICS2 อย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในด้านกฎระเบียบทางการค้าของสหภาพยุโรป สำหรับผู้ส่งสินค้าและผู้รับสินค้า การปฏิบัติตามกฎ ICS2 อย่างเต็มรูปแบบไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่กลายเป็นข้อบังคับผู้ที่ปรับตัวได้เร็วจะได้ประโยชน์จาก กระบวนการผ่านแดนที่ราบรื่นขึ้น ความเสี่ยงของความล่าช้าหรือการหยุดชะงักที่ลดลง และความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้นในสายตาของพันธมิตรภายใน สหภาพยุโรป

สาระสำคัญมีเพียงหนึ่งเดียว: การปฏิบัติตาม ICS2 ไม่ใช่สิ่งที่ “เลือกทำได้” อีกต่อไป แต่เป็นพื้นฐานสำคัญของการทำธุรกิจในตลาดสหภาพยุโรป

ขอขอบคุณหากคุณสามารถแบ่งปันบล็อก TGL ในหมู่เพื่อนของคุณที่สนใจข้อมูลตลาดโดยตรงของโซ่อุปทานและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่อัปเดต