Quote
Factory Buyer Rate Questions

บล็อก

วิธีนำเข้าสินค้าไปขายบน Amazon Japan

13 Aug 2025

By Tony Li    Photo:CANVA


Amazon เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ระดับโลกที่มีทั้งสินค้าและบริการหลากหลาย พร้อมฐานผู้ใช้งานและเครือข่ายการขายที่ครอบคลุมทั่วโลก ปัจจุบัน Amazon มีเว็บไซต์ในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา อังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น จีน ฯลฯ ทำให้หลายบริษัทนิยมลงขายสินค้าผ่าน Amazon ในหลายประเทศเพื่อเพิ่มยอดขาย
บทความนี้จะเน้นอธิบายเรื่องการนำเข้าสินค้าไปขายบน Amazon ญี่ปุ่น

 

แม้ว่า Amazon จะเป็นแพลตฟอร์มขายของที่ยอดเยี่ยม แต่ก็มีข้อกำหนดมากมาย และ จะไม่ทำหน้าที่เป็นผู้นำเข้าที่จดทะเบียน (IOR) ตามกฎหมายการค้าระหว่างประเทศ ประเทศผู้นำเข้าจะต้องมีนิติบุคคลที่เป็นผู้รับผิดชอบในการยื่นเอกสารศุลกากร ชำระภาษี ฯลฯ แต่ในกรณีของ Amazon นั้น ไม่ได้เป็นผู้ซื้อสินค้าโดยตรงจากผู้ขายในต่างประเทศ เป็นเพียงแค่หนึ่งในช่องทางการขายสินค้าเท่านั้น จึงไม่ทำหน้าที่เป็น IOR

ดังนั้น ถ้าต้องการนำสินค้าไปเก็บไว้ในคลัง FBA ของ Amazon ญี่ปุ่น ผู้ขายจะต้องแก้ปัญหาเรื่องการไม่มีผู้นำเข้าในญี่ปุ่นก่อน ซึ่งโดยทั่วไปมี 2 วิธีที่นิยมใช้

 

1. ใช้บริษัทนำเข้าในญี่ปุ่นเป็นผู้นำเข้า (IOR)

คือการแต่งตั้งบริษัทเทรดดิ้งหรือบริษัทนำเข้าในญี่ปุ่นให้เป็น IOR ดำเนินเรื่องนำเข้าอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่การผ่านศุลกากร ตรวจสินค้า และชำระภาษี เมื่อของผ่านศุลกากรแล้วก็ส่งต่อไปยังคลังของ Amazon ในญี่ปุ่น

ในอดีต เคยมีบริษัทเทรดดิ้งในญี่ปุ่นให้บริการปล่อยใช้ใบอนุญาตนำเข้าโดยไม่เกี่ยวข้องกับการขายจริง เพียงแค่เก็บค่าบริการและจ่ายภาษีแทนให้ผู้ขาย แต่ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มเข้มงวดมากขึ้น และไม่อนุญาตให้ใช้บริการลักษณะนี้อีกต่อไป

 

2. ใช้ตัวแทนพิธีการศุลกากร (ACP)

วิธีนี้คือการให้บริษัทต่างชาติสามารถนำเข้าสินค้าได้ภายใต้ชื่อตัวเอง โดยมอบหมายให้ตัวแทนศุลกากรที่ได้รับใบอนุญาตในญี่ปุ่นเป็นผู้ดำเนินพิธีการ ตัวแทนจะไปจดทะเบียนข้อมูลบริษัท หมวดสินค้า และราคาขายกับศุลกากร เมื่อจดทะเบียนเสร็จ ตัวแทนก็สามารถดำเนินเรื่องผ่านศุลกากรแทนได้

ข้อดีของ ACP:

  1. เป็นระบบที่ถูกกฎหมาย ช่วยให้ผู้ขายต่างชาตินำเข้าสินค้าเข้าไปญี่ปุ่นได้
  2. จดทะเบียนครั้งเดียว ใช้ได้ตลอดไป เว้นแต่จะยกเลิก
  3. ไม่ต้องตั้งบริษัทในญี่ปุ่น ก็สามารถผ่านศุลกากรได้ในนามบริษัทต่างชาติ และมีใบรับรองการปฏิบัติตามข้อกำหนดออกให้

ข้อจำกัดของ ACP:

  1. ตัวแทนศุลกากรไม่สามารถดำเนินการตรวจสินค้าได้ ถ้าสินค้าต้องมีการตรวจ จะต้องมีบริษัทในญี่ปุ่นเป็นผู้รับผิดชอบแทน ดังนั้น ACP จึงเหมาะสำหรับสินค้าทั่วไปที่ไม่ต้องมีการตรวจสอบ
  2. การจดทะเบียนกับศุลกากรใช้แยกกันในแต่ละท่า เช่น สนามบินกับท่าเรือใช้คนละระบบ ถ้าจะเปลี่ยนท่าเข้า ต้องลงทะเบียนใหม่กับท่าใหม่
  3. ถ้าเปลี่ยนชนิดของสินค้า ต้องยื่นขอเปลี่ยนหมวดสินค้ากับศุลกากรอีกครั้ง

 

สินค้าที่ไม่สามารถนำเข้าแบบ ACP ได้:

  1. อาหาร เครื่องดื่ม ภาชนะ เครื่องครัว ของเล่นเด็กต่ำกว่า 6 ปี และสินค้ามีวันหมดอายุ
  2. ยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์
  3. อุปกรณ์ใช้แบตเตอรี่ Power bank แบตลิเธียม
  4. สินค้าที่อาจก่อให้เกิดอันตราย เช่น เตียงเด็ก ปากกาลเซอร์ ไฟแช็ก หม้อแรงดัน หมวกกันน็อก เชือกปีนเขา เตาน้ำมัน
  5. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 

สรุป

บทความนี้เขียนขึ้นเพื่ออธิบายแนวทางเบื้องต้นสำหรับการนำเข้าสินค้าไปยัง Amazon Japan หากคุณกำลังวางแผนจะส่งของไปญี่ปุ่น หรือมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ สามารถติดต่อเราได้เลย!

 

ขอขอบคุณหากคุณสามารถแบ่งปันบล็อก TGL ในหมู่เพื่อนของคุณที่สนใจข้อมูลตลาดโดยตรงของโซ่อุปทานและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่อัปเดต

Get a Quote Go Top